
หากใครที่กำลังสงสัยว่า… เฟอร์นิเจอร์บ้าน กับ เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน มีความแตกต่างกันอย่างไร ? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจของการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ตามสถานที่ต่างๆ ให้ถูกต้อง เพราะทั้งสองแบบนี้ มีความแตกต่างกันในรายละเอียดหลายๆ อย่างที่คนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ควรรู้
ความแตกต่างของเฟอร์นิเจอร์บ้าน กับ เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน
1 เฟอร์นิเจอร์บ้านกับเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ประโยชน์ในการใช้งาน…ต่างกัน
แน่นอนว่าการใช้งานที่บ้านและการใช้งานที่สำนักงานย่อมมีความแตกต่างกัน บ้านย่อมต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้แล้วได้รับการพักผ่อน นั่งสบาย หรือเน้นความสวยงาม ในขณะที่สำนักงานต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่จะส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูง
ดังนั้น แม้จะเป็นโต๊ะเหมือนกัน แต่โต๊ะที่บ้านและโต๊ะที่ทำงานก็ย่อมจะมีความแตกต่างในเรื่องของประโยชน์การใช้งาน โต๊ะในบ้านอาจจะออกแบบให้เป็นโต๊ะที่สวยงาม เข้ากับบ้าน หรือสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ได้หลายๆ ฟังก์ชัน ส่วนโต๊ะที่ทำงานก็จะเน้นเป็นโต๊ะที่สามารถที่จะจัดเก็บสิ่งของหรือเอกสารจำนวนมากๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ และสามารถหาของที่เก็บไว้ได้เร็วกว่าเดิม เป็นต้น

2 เฟอร์นิเจอร์บ้าน มีอายุการใช้งานไม่เท่ากับเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน
เฟอร์นิเจอร์สำนักงานและเฟอร์นิเจอร์บ้าน จะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้วเฟอร์นิเจอร์สำนักงานจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีอายุการใช้งานที่นานกว่า 3-4 เท่า เนื่องมาจากจำเป็นจะต้องเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างแข็งแรง ทนทาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย และมีโอกาสที่จะเสียหายได้น้อยกว่า เนื่องมาจากสำนักงานจะมีคนใช้งานเฟอร์นิเจอร์ขิ้นเดียวกันหลายคน และแต่ละคนก็อาจจะมีการดูแลที่ไม่เหมือนกัน
ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์บ้าน คุณมักจะดูแลเฟอร์นิเจอร์ของคุณอย่างดี และอาจจะมีแค่คุณและคนในครอบครัวไม่กี่คนเท่านั้นที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อแบบที่ทนทานมากจนเกินไป อีกอย่างก็คือ คุณอาจจะชอบเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ เพื่อปรับลุคบ้านให้ทันสมัย หรือเพื่อฟังก์ชันการใช้งานที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
3 เฟอร์นิเจอร์บ้านมีความแตกต่างในเรื่องของขนาด
เฟอร์นิเจอร์สำนักงานมักจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเฟอร์นิเจอร์บ้าน เนื่องจากโดยส่วนใหญ่จะมีการออกแบบให้สามารถที่จะจัดเก็บสิ่งของต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนและเป็นระบบระเบียบ หรือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายคน
ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์บ้าน จะเน้นขนาดที่เข้ากับองค์ประกอบอื่นๆ ภายในบ้าน อาจไม่จำเป็นจะต้องเป็นชิ้นใหญ่ แต่ให้เพียงพอต่อความต้องการ หรือเหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่นั้นๆ และการเลือกเฟอร์นิเจอร์บ้านที่มีขนาดใหญ่เกินไปอาจจะทำให้บ้านดูรกเกินความจำเป็น

4 จะเลือกเฟอร์นิเจอร์บ้าน หรือ เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ให้เน้นที่ฟังก์ชันในการใช้งาน
คุณมักจะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์บ้านโดยส่วนใหญ่ จะมีฟังก์ชันพื้นฐานในการใช้งานที่ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ในขณะที่ เฟอร์นิเจอร์สำนักงานจะมีฟังก์ชันที่มากกว่า เพื่อให้การซื้อในแต่ละครั้งมีความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และไม่ต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ
ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นโต๊ะภายในบ้าน ก็อาจจะมีฟังก์ชันเพียงแค่เอาไว้รองรับการรับประทานอาหารร่วมกันของคนในครอบครัว แต่หากเป็นโต๊ะที่อยู่ในออฟฟิศ ก็จะต้องมีฟังก์ชันที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ ชิ้น มีพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสาร หรือมีฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต่อการใช้งาน
จาก 4 ข้อข้างต้น จะเห็นได้ว่าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน มักจะมีรายละเอียดที่มากกว่าเฟอร์นิเจอร์บ้าน และจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการเลือกที่ละเอียดมากกว่า ควรจะต้องมีการเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา เพื่อให้ได้มาซึ่งของที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และสามารถใช้ได้อย่างยาวนาน ทั้งนี้ ก็เพื่อความคุ้มค่าในการจ่ายเงินมากที่สุดนั่นเอง
ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์บ้าน จะเน้นการซื้อมาเพื่อความสวยงาม และเน้นความชอบของผู้อยู่อาศัยในบ้านเป็นหลัก เฟอร์นิเจอร์บ้านอาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามระยะเวลา รวมไปถึงความพอใจที่จะซื้อของชิ้นใหม่ของเจ้าของบ้านคนนั้นๆ ด้วย
ความแตกต่างของเฟอร์นิเจอร์บ้านและเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ย่อมส่งผลให้ไม่สามารถที่จะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวกันในสองสถานที่ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ดีก่อนที่จะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าของที่ซื้อมาจะเข้ากับสถานที่ และมีประโยชน์ในการใช้งานอย่างแท้จริง
อ่านบทความ เฟอร์นิเจอร์ลอฟท์ คืออะไร
อ้างอิง