รู้ก่อนซื้อ 3 ระบบ ของ เครื่องกรองน้ำ มีแบบไหนบ้าง

รู้ก่อนซื้อ 3 ระบบ ของ เครื่องกรองน้ำ มีแบบไหนบ้าง 1

หลายคนมีความเข้าใจว่าเครื่องกรองน้ำดื่มที่เห็นกันบ่อยๆ นั้นเหมือนกันหมด แต่จริงๆ แล้วแม้ว่ารูปลักษณ์จะเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด เพราะภายในนั้นมีระบบกรองน้ำที่สามารถแบ่งได้หลายประเภท ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะซื้อเครื่องกรองน้ำไว้ใช้งาน เราจึงอยากชวนไปทำความรู้จักกับ 3 ระบบของ เครื่องกรองน้ำ กันก่อนเพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

รู้ก่อนซื้อ 3 ระบบ ของ เครื่องกรองน้ำ มีแบบไหนบ้าง 2

เครื่องกรองน้ำ สามารถแบ่งเป็น 3 ระบบ ดังนี้

1. เครื่องกรองน้ำดื่ม ระบบ UF ( Ultra Filtration System )

เครื่องกรองน้ำ ระบบนี้ เป็นแบบที่ใช้งานกันโดยทั่วไป ส่วนใหญ่แล้วจะมีขั้นตอนการกรองน้ำตั้งแต่ 3 – 5 ขั้นตอน ได้แก่ขั้นตอนแรกสุดคือไส้กรอง PP ( Poly Propylene ) เป็นไส้กรองหยาบ ต่อมาเป็นไส้กรองคาร์บอน ที่นำคาร์บอนมาอัดแท่งแล้วพันด้วยตาข่าย โดยสามารถกรองสิ่งสกปรก คลอรีน สี และกลิ่นได้ ทั้งยังสามารถกรองเชื้อโรคและแบคทีเรียที่ละเอียดได้ถึง 0.01 ไมครอน จึงเหมาะสำหรับการกรองน้ำประปา และยังสามารถเปลี่ยนไส้กรองได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

2. เครื่องกรองน้ำดื่ม ระบบ UV ( Ultra Violet Filtration System )

ถัดมาเป็นเครื่องกรองน้ำระบบ UF และหลอด UV โดยสามารถกรองสิ่งที่ปนเปื้อนมากับน้ำ อย่างสิ่งสกปรกต่างๆ คลอรีน กลิ่น และสี ผ่านระบบกรอง UF และผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV เหมาะสำหรับใช้กรองน้ำประปานอกจากนี้ เครื่องกรองน้ำ ระบบนี้ยังสามารถรักษาแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายได้ และสามารถหาซื้อไส้กรองเปลี่ยนเองได้ จึงเหมาะแก่การใช้งานในที่พักอาศัยทั่วไปหรือสำนักงานต่างๆ

3. เครื่องกรองน้ำดื่ม ระบบ RO ( Reverse Osmosis System )

สำหรับ เครื่องกรองน้ำ ระบบ RO จะมีการกรองน้ำสูงถึง 5 – 6 ขั้นตอนด้วยกัน ซึ่งถือเป็นระบบกรองน้ำที่สะอาดที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยสามารถกรองสิ่งสกปรก สารปนเปื้อน และเชื้อโรคต่างๆ ที่ความละเอียดสูงถึง 0.0001 ไมครอน จึงสามารถกรองแร่ธาตุต่างๆ ออกไปได้หมด ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็นต่อร่างกาย จนได้น้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ และนอกจากนี้ก็ยังสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำกร่อย น้ำเค็มได้ด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ รวมถึงเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก แต่ระบบนี้จะต้องใช้ปั๊มน้ำเข้าช่วยเพื่อเพิ่มแรงดันน้ำ และต้องติดตั้งไฟฟ้าเพิ่ม จึงทำให้มีราคาสูง ส่งผลให้การดูแลรักษายุ่งยากกว่าระบบอื่น

เมื่อมองดูผิวเผินอาจดูเหมือนว่าเครื่องกรองน้ำดื่มทุกระบบที่กล่าวมานั้น สามารถช่วยกรองน้ำให้สะอาดได้เหมือนกันหมด แค่แตกต่างกันที่หลักการทำงานเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้การตัดสินใจเลือกซื้อ เครื่องกรองน้ำ ได้ง่ายยิ่งขึ้น ลองมาดูปัจจัย 3 ข้อต่อไปนี้

1. เลือกจากสภาพของน้ำดิบที่นำมากรอง

สำหรับตัวเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ 90 เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นน้ำประปา จึงเหมาะกับเครื่องกรองน้ำทุกระบบ แต่หากเป็นพื้นที่ในต่างจังหวัดแล้วล่ะก็อาจมีทั้งน้ำประปา น้ำประปาหมู่บ้าน น้ำบาดาลและน้ำบ่อผสมปนเปกันไป จึงทำให้มีสารปนเปื้อนได้มากกว่าพื้นที่ในตัวเมือง ดังนั้นจึงควรเลือกใช้เครื่องกรองน้ำระบบ RO เพื่อให้ได้น้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยมากที่สุด

2. เลือกจากลักษณะการใช้งาน

สำหรับการใช้งานเครื่องกรองน้ำดื่มตามบ้านหรือที่พักอาศัยโดยทั่วๆ ไป สามารถเลือกใช้เครื่องกรองน้ำระบบปกติได้เลย ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนารวมเครื่องกรองน้ำดื่มเข้าไว้กับตู้กดน้ำ จึงค่อนข้างสะดวกสบายกับการใช้งาน โดยสามารถกดออกมาเป็นแบบร้อนหรือแบบเย็นได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้เครื่องแบบนี้ในพื้นที่ๆ คนเยอะๆ หรือสำนักงานต่างๆ

3. เลือกจากมาตรฐานการรับรอง

สุดท้ายการเลือก เครื่องกรองน้ำ ควรเลือกเครื่องที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งจะเป็นการรับรองทั้งในเรื่องของการผลิตและกระบวนการต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ จึงทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าคุณภาพดีรวมถึงการรับรองจากสมาคมคุณภาพน้ำดื่มจากสหรัฐอเมริกา Water Quality Association ( WQA ) และการรับรองมาตรฐานจากประเทศไทย อาทิเช่น Thailand Trusted Mark เป็นต้น

และนี่ก็คือ 3 ระบบของ เครื่องกรองน้ำ ที่ต้องรู้ก่อนการเลือกซื้อมาใช้งาน รวมถึงปัจจัยการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำที่เรานำมาเป็นความรู้ให้ในวันนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อรู้แล้วว่าเครื่องกรองน้ำดื่มมีแบบไหนบ้าง ก็ควรเลือกใช้งานให้ถูกต้อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

รูปภาพประกอบ : bnbhome.com 

รูปภาพประกอบ : top10.in.th

อ่านต่อที่ เฟอร์นิเจอร์บ้าน

PG Slot เว็บตรง

บทความน่าสนใจ

เว็บไซต์น่าสนใจ

ร้านอาหารอร่อย
kinkubsher

แฟชั่นผู้ชาย
maleextratoday

แบบบ้าน
baan-design

แต่งงาน
weddingdistrictfrance

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
liqinfo