อุปกรณ์ตกแต่งภายในที่จะเพิ่มความหรูหราให้กับห้องนั้นๆนอกจากเฟอร์นิเจอร์สุดหรูแล้ว ก็ยังมีพรมปูพื้นที่เป็นตัวเสริมให้ห้องมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าไปแล้วพรมนั้นมีหลากหลายรูปแบบและดีไซน์ที่ต่างกันจากเส้นใยที่ไม่เหมือนกัน วันนี้แอดจะพาเพื่อนๆไปศึกษาวิธีการเลือกพรมว่าควรเลือกเส้นใยแบบไหนดีที่จะเหมาะกับห้องภายในบ้าน เป็นตัวเสริมความหรูหราและทำให้ห้องมีความสวยมากยิ่งขึ้น
วิธีเลือก พรมปูพื้น เสริมความหรูหรา เทคนิคที่ทำตามได้ไม่ยาก
สำหรับใครหลายคนการตกแต่งภายในบ้านก็เปรียบเสมือนการสร้างศิลปะอย่างหนึ่ง ได้จัดเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์การตกแต่งที่หลากหลายสไตล์ พรมปูพื้นก็อุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกหนึ่งไอเทมที่เข้ากับทุกสไตล์บ้าน ทั้งนี้วิธีการเลือกพรมปูห้อง ควรต้องศึกษาชนิดของพรม เพราะการใช้งานนั้นแตกต่างกันไป อีกทั้งควรรู้ถึงเทคนิคการเลือกพรม ถึงจะยิ่งเพิ่มความหรูหราให้กับบ้านได้อย่างง่ายดาย
ประเภทของพรม
1. พรมเส้นใยธรรมชาติ
พรมเส้นใยธรรมชาติ พูดง่ายๆเลยผลิตมาจากธรรมชาตินั้นเอง โดยจะนิยมใช้ใบมะพร้าว ฝ้าย และปอ ด้วยความที่ใช้เส้นใยธรรมชาติจึงไม่ค่อยมีความนุ่มฟูเท่ากับพวกขนสัตว์ แต่ความโดดเด่นจะอยู่ที่มีความแข็งแรง เส้นที่เหนียว และลวดลายจากธรรมชาติ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร
2. พรมไนล่อน
พรมไนล่อน เป็นพรมปูพื้นที่ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะประสิทธิภาพการใช้งานที่ค่อนข้างสูง ทั้งป้องกันน้ำ เชื้อรา ทนต่อการใช้งานสูง ดูแลง่าย อีกทั้งยังมีตัวเลือกของสีและลวดลายที่เยอะมาก ซึ่งทางด้านข้อเสียมีเพียงทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องนอน ได้เกือบทุกห้องเลย
3. พรมอะคริลิค
พรมอะคริลิค เป็นอีกหนึ่งพรมปูพื้นที่ให้ความนิยมปูที่ห้องนอน เพราะเป็นพรมที่เลียนแบบพวกพนมขนสัตว์ แต่มีราคาที่ถูกกว่าเยอะ ซึ่งพรมชนิดนี้จะเพิ่มความหรูหราและดูสไตล์ที่เรียบง่าย ความมินิมอลให้กับสไตล์ของบ้าน ข้อเสียพรมชนิดนี้ไม่ค่อยมีความแข็งแรง จึงนิยมใช้ในห้องนอนซะส่วนใหญ่ หรือบ้านไหนต้องการความนุ่มฟูในห้องนั่งเล่นก็ได้เช่นกัน
4. พรมขนสัตว์
พรมขนสัตว์ จะคล้ายกับพรมอะคริลิค แต่ด้วยขนที่นำมาทำเป็นพรมปูพื้นเพราะขนจากธรรมชาติ ที่มีราคาที่แพงมากกว่า คุณสมบัติของพรมชนิดนี้ด้วยความที่ใช้จากธรรมชาติจึงมีความนุ่มมากกว่า ขนที่สวยกว่า เพิ่มความหรูหราภายในห้องได้อย่างชัดเจน แต่ด้วยข้อเสียที่ทำความสะอาดยากกว่า เพราะขนค่อนข้างต้องได้รับการดูแล จึงเหมาะกับห้องนอน
5. พรมโพลีเอทิลีน
พรมโพลีเอทิลีน ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โพลีเอทิลีน สังเคราะห์จากอะไร ซึ่งเป็นชื่อพลาสติกชนิดหนึ่งที่ทำมาจากสารตั้งต้นเอทิลีน หรือพวกพลาสติกรีไซเคิลนั้นเอง ทำให้พรมชนิดนี้จึงราคาไม่แพง แต่ประสิทธิภาพค่อนข้างสูงเพราะสามารถทำความสะอาดง่าย ป้องกันพวกคราบหรือฝุ่นได้เป็นอย่างดี แต่ข้อเสียด้วยความที่ทำมาจากพลาสติกเลยไม่มีความนุ่มเท่าไร
6. พรมโพลีโพรไพลีน
พรมโพลีโพรไพลีน เป็นอีกหนึ่งพรมปูพื้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จะเห็นได้ตามบริษัท ที่ต้องการปูพรมทั้งห้อง เพราะพรมชนิดนี้จะมีความนุ่ม ดูดซึมน้ำได้อย่างดี คล้ายกับพรมขนสัตว์ แต่มีราคาที่ถูกกว่าเยอะ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ด้วยข้อเสียที่ไม่ควรโดนแดดเพราะจะทำให้สีของพรมดูซีดลง จึงเหมาะกับห้องที่ไม่ต้องการรับแสงแดดมากจนเกินไป
7. พรมทริเอกซ์ต้า
พรมทริเอกซ์ต้า เป็นอีกหนึ่งพรมปูพื้นห้องที่เป็นตัวเลือกใหม่ในปัจจุบัน จะมีความคล้ายคลึงกับตัวพรมโพลีเอสเตอร์ แต่ด้วยประสิทธิภาพที่มีความแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น และเหนียวกว่า อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ป้องกันพวกคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี บ้านไหนมีเด็กเล็กเยอะเหมาะอย่างมาก หรือห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร
ข้อดี – ข้อเสีย ของพรมปูพื้น
ข้อดีของพรมปูพื้น
1. ความสวยงาม – ช่วยเพิ่มความหรูหราให้ภายในห้อง ให้บ้านเกิดความโดดเด่นขึ้นมา ด้วยลวดลายและโทนสีของพรมปูพื้น
2. ลดรอย – กระเบื้องหรือไม้ที่ปูพื้นภายในบ้านก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้บ้านดูดีมีสไตล์มากขึ้น การปูพรมจะลดการขีดข่วนให้กับพื้นด้านล่างที่ปูเอาไว้
3. ลดอุบัติเหตุ – พรมปูพื้นห้องจะช่วยลดความลื่นให้กับคนในบ้าน ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยลดแรงกระแทกเวลาลื่นล้มอีกด้วย
4. ป้องกันฝุ่น – ด้วยตัวพรมที่มีลักษณะเส้นใยต่างๆ แต่ความเหมือนกันคือการดักจับพวกฝุ่น ทราย ดิน ที่เข้ามาในบ้าน เพราะจะไปกองรวมกันที่ตัวพรมนั้นเอง
ข้อเสียของพรมปูพื้น
1. ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ – ด้วยพรมปูพื้นเป็นแหล่งที่สะสมที่เต็มไปด้วยฝุ่น ละออง เชื้อรา จึงมีผลต่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อย่างมาก
2. ทำความสะอาดยาก – ความสวยงามของพรมเป็นเหมือนฉากบังหน้า แท้ที่จริงแล้วทำความสะอาดค่อนข้างยาก ยิ่งถ้าทำน้ำหกหรือเศษอาหารหล่นใส่ ทำให้เกิดเป็นคราบได้
3. ไม่ค่อยทนทาน – พรมในสมัยนี้ราคาค่อนข้างถูก ตามมาด้วยความทนทานของพรมที่ใช้งานไม่นาน ยิ่งถ้าโดนทับบ่อย โดนเฟอร์นิเจอร์ลาก ก็ยิ่งเกิดความเสียหายได้ง่ายเช่นกัน
4. ไม่เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงสัตว์ – เพราะพรมเปรียบเสมือนที่ให้น้องๆได้เข้าห้องส้วมเลยก็ว่าได้ ยิ่งกว่านั้นกลิ่นของน้องสัตว์จะไปสะสมอยู่ที่พรม ทำให้บ้านมีกลิ่นเหม็นได้
จบไปแล้วสำหรับใครที่ต้องการ พรมปูพื้น ภายในห้อง แล้วต้องการศึกษาว่าควรใช้พรมชนิดไหนดี ที่จะเหมาะกับบ้านของเพื่อนๆที่สุด อีกทั้งยังเหมาะกับงบที่ตั้งไว้ในการตกแต่งภายในบ้านอีกด้วย หวังว่าเพื่อนๆจะได้ความรู้ไม่มากก็น้อยจากข้อมูลที่แอดได้แนะนำไปนะคะ
ขอบคุณรูปจาก
www.lazada.co.th
อ่านต่อที่ เพิ่มสไตล์ให้ออฟฟิศคุณ ด้วย ม่าน มู่ลี่ จากไม้คุณภาพดี